อดีต ปัจจะบัน และอนาคต ของประยุทธ์​ (มุมมองจากเฟสบุ๊ค)

..อย่าปล่อยให้ไร้บุบผาฝืนหักกิ่ง.. "ภูเขาสูงมิขวางกั้นเมฆขาว ป่าไผ่ไม่เป็นอุปสรรคธารน้ำใส" หลังรปห.ใหม่ๆทุกพรรคการเมืองถูก บีบคอและจำรับปากทุกเงื่อนไข ถือเป็นธรรมดา ต้นมค.58ทุกพรรค การเมืองปชต.เริ่มถ่วงเวลา(กั๊ก) 23มค.ยิ่งรักถูกแขวนติดตามด้วย ส่งอัยการทันที24usเข้ามาจึงเป๊ก/ ตามด้วยสมศักดิปริศนา(ชาติไทย) โดนมั่ง สถานการณ์รัฐทหารทรุด เสื่อมถอยลงตลอด จำต้องรีบปล่อย รธน.ตามสูจน์ก้าวตรงไม่ได้บางครั้ง จึงก้าวเฉียง พร้อมพงศ์จึงโดนเชือด ในยกสองนี้ คือก่อนเลือกตั้งต้อง ทำลายพรรคที่ไม่คล้อยตามให้สิ้น "ช่วงเวลาของยามนี้" หากพรรคการเมืองฝ่ายปชต.ไม่ ฉวยโอกาศออกมาวิพากษ์รธน. ตามหน้าที่ที่อาสามารับใช้ปชช. ผลจะพรรคการนั้นจะสูญหายจาก หัวใจปชช.ที่เคยหนุน พรรคชาติ ไทยถิ่นข้าวเสียหายมาก และโกหาร…

ข้อเสนอ "ทวงคืนและรื้อฟื้นวันชาติก่อนจะสิ้นชาติ"

เรียน ดร.เพียงดินที่นับถือขอเวลาผมสักนิด เข้าใจว่าท่านคงมีเวลาจำกัดมากด้วยวัยของผม 67 ย่าง 68 ปี งานที่ท่านมอบคงต้องใช้เวลาครับแต่ที่เขียนมาวันนี้เพราะอยากเสนอให้พิจารณาในประเด็นที่สำคัญยึดเป็นหลักและปักธงไว้ และท่านคิดว่าดีเป็นประโยชน์กับองค์กร ก็นำไปพูดคุยกับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ท่านอื่นๆที่จะไปร่วมประชุมที่ลาสเวกัส         ประเด็นที่เสนอคือ "ทวงคืนและรื้อฟื้นวันชาติก่อนจะสิ้นชาติ"ทำให้คนในชาติได้รู้ว่า เรามีวันชาติและหายไปเพราะอะไร  และความสำคัญของชาติก็ต้องถือว่าสำคัญที่สุดเหนือสถาบันอื่นใด ก็ขอรบกวนเวลาท่านเท่านี้ก่อนครับขอแสดงความนับถือและศรัทธาXXXX

ข้อเสนอ "ทวงคืนและรื้อฟื้นวันชาติก่อนจะสิ้นชาติ"

เรียน ดร.เพียงดินที่นับถือขอเวลาผมสักนิด เข้าใจว่าท่านคงมีเวลาจำกัดมากด้วยวัยของผม 67 ย่าง 68 ปี งานที่ท่านมอบคงต้องใช้เวลาครับแต่ที่เขียนมาวันนี้เพราะอยากเสนอให้พิจารณาในประเด็นที่สำคัญยึดเป็นหลักและปักธงไว้ และท่านคิดว่าดีเป็นประโยชน์กับองค์กร ก็นำไปพูดคุยกับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ท่านอื่นๆที่จะไปร่วมประชุมที่ลาสเวกัส         ประเด็นที่เสนอคือ "ทวงคืนและรื้อฟื้นวันชาติก่อนจะสิ้นชาติ"ทำให้คนในชาติได้รู้ว่า เรามีวันชาติและหายไปเพราะอะไร  และความสำคัญของชาติก็ต้องถือว่าสำคัญที่สุดเหนือสถาบันอื่นใด ก็ขอรบกวนเวลาท่านเท่านี้ก่อนครับขอแสดงความนับถือและศรัทธาXXXX

"ไม่รับ"ร่างรัฐธรรมนูญขั้นประชามติ บทพิสูจน์พลังประชาธิปไตย (จอม เพชรประดับ)

"ไม่รับ"ร่างรัฐธรรมนูญขั้นประชามติ บทพิสูจน์พลังประชาธิปไตย jom voice 123 views Published on Aug 31, 2015ศาสตราจารย์ พนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia เกี่ยวกับการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ของ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ว่าจะรับ หรือไม่รับ ร่างรัฐธรรมนูญก่อนที่จะนำไปสู่การทำประชา­มติหรือไม่ว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วย และไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะที่มีที่ไม่ชอบธรรมและไม่เป็นประชาธิ­ปไตย และเชื่อว่า…

"ไม่รับ"ร่างรัฐธรรมนูญขั้นประชามติ บทพิสูจน์พลังประชาธิปไตย (จอม เพชรประดับ)

"ไม่รับ"ร่างรัฐธรรมนูญขั้นประชามติ บทพิสูจน์พลังประชาธิปไตย jom voice 123 views Published on Aug 31, 2015ศาสตราจารย์ พนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia เกี่ยวกับการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ของ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ว่าจะรับ หรือไม่รับ ร่างรัฐธรรมนูญก่อนที่จะนำไปสู่การทำประชา­มติหรือไม่ว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วย และไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะที่มีที่ไม่ชอบธรรมและไม่เป็นประชาธิ­ปไตย และเชื่อว่า…

ดร.เพียงดิน 2015-08-31 ตอน ตัดเยื่อใยยิ่งลักษณ์-และข้อคิดเรื่องการล้มรัฐธรรมนูญโจร

ดร.เพียงดิน 2015-08-31 ตอน ตัดเยื่อใยยิ่งลักษณ์-และข้อคิดเรื่องการล้มรัฐธรรมนูญโจรhttps://youtu.be/yJj42G9AWtMดาวน์โหลดเพื่อการเผยแพร่http://www.mediafire.com/listen/spkik3hd45w95h4/DrPiangdin-Aug31-2015.mp3​

ข่าวลับกรองแล้ว จากสายลับในกองทัพไทย 31 สิงหาคม 2558

ด่วน..เป็นบุญตาที่ได้เห็นโฆษกทบ. ข่มขู่สื่อที่เผยแพร่ยุทธภัณฑ์ออกภาพทีวีพูล ทั้งที่เป็นรายการแถลงข่าวของ รัฐบาล คสช.เองแท้ๆ ส่วนไอ้โฆษก ทอ.ตัวเบื๊อกนั่งรากงอกจนเป็นพลเอก ยังไม่มีความคิดดีๆออกมาสู่สังคม บอกจะฟ้องทหารอากาศด้วยกันที่ส่งข้อมูลให้ชาวเนตถล่มกลุ่มทหารอากาศเด็กนายขับเครื่อง C 130 พาพวกและครอบครัวไปเที่ยวช้อปปิ้งที่ซานซานฟิสโก จนถูกคนร้ายปล้น ถูกแทงบาดเจ็บ เรื่องถึงได้แดง                               …

"อยากขอให้ศาลตัดสินประหารชีวิตเลยจะได้ไม่ต้องมาทนทุกข์ทนลำบาก"ปัทมา มูลนิล … คุณยังจำผู้หญิงคนนี้ได้หรือไม?

"อยากขอให้ศาลตัดสินประหารชีวิตเลยจะได้ไม่ต้องมาทนทุกข์ทนลำบาก"ปัทมา มูลนิล ... คุณยังจำผู้หญิงคนนี้ได้หรือไม?ปัทมามูลนิลซึ่งถูกจับในขณะอายุเพียง 23 ปี เธอเป็นลูกคนสุดท้องของครอบครัวแม่ค้าขายอาหารตามสั่งและกำลังเรียนกศน.ในระดับมัธยมต้นปัทมาเคยร่วมอุดมการณ์กับกลุ่ม'คนเสื้อเหลือง' และติดตามข่าวสารผ่านช่องเอเอสทีวีมาโดยตลอดจนกระทั่งมีการยุบพรรคและเลือกตั้งใหม่เธอเริ่มตั้งคำถามจากนั้นเธอจึงติดจานดาวเทียมที่มี 'ช่องเสื้อแดง'ก่อนที่ความคิดจะค่อยๆ เปลี่ยนไปก่อนถูกจับแม่ของเธอได้โทรไปบอกว่ามีหมายจับมาให้ไปมอบตัวเธอบอกกับแม่ว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเธอไม่ได้เผาศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี เธอเข้าไปอย่างเดียวไม่ได้ทำอะไรแม่ก็บอกว่า"ถ้าไม่ได้ทำอะไรลูกก็กลับมามอบตัวสู้คดีซะลูกให้โทรมาบอกอาให้อาพาไปมอบตัว"แต่ในที่สุดเธอก็ถูกตำรวจจับกุมเมื่อวันที่ 24พฤษภาคม2553ที่สถานีขนส่งจ.สุรินทร์โดยเธอถูกล็อกตัวใส่กุญแจมือโดยถูกจับกดคอลงกับพื้นท่ามกลางสาธารณชนพร้อมทั้งมีปืนจ่อหัวและจับคอเสื้อลากขึ้นรถไปยังสภ.เมืองสุรินทร์เพื่อนที่ไปด้วยก็ร้องไห้และถูกบังคับให้เธอรับสารภาพเสีย จะได้ปล่อยเพื่อนไป และขู่จะยัดยาบ้าให้อีกหลายเม็ดและให้เซ็นรับสารภาพแต่โดยดีว่าเผาศาลากลางเซ็นแล้วก็จะปล่อยตัวเพื่อนไปสุดท้ายเธอจึงยอมเซ็นตำรวจนำตัวเธอกลับมาถึงอุบลราชธานีตอนเที่ยงคืนและได้เอารูปภาพประมาณ 400 ภาพในวันเกิดเหตุมาให้ดูและถามว่ารู้จักใครบ้างให้รีบบอกมาเธอบอกว่า ไม่รู้จักตำรวจก็ตบหัวเธอทุกครั้งที่ถามจนเกือบตี 3กว่าก็พาเธอลงมาขังไว้ใต้ถุนสถานีตำรวจโดยตั้งข้อหาหนักให้เธอ คือ 1)ร่วมกันวางเพลิงเผาศาลากลาง2)ร่วมกันประทุษร้ายทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ด้วยอาวุธ ไม้, อิฐ, หิน, หนังสะติ๊ก 3) ชุมนุมกันเกิน 10 คน เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองตำรวจบอกว่าให้รับไปเถอะแล้วไปแก้ข้อกล่าวหาเอาที่ศาลจากนั้นก็ส่งตัวเธอไปแถลงข่าวโดยตำรวจบอกว่าให้นั่งก้มหน้าลงอย่าพูดอะไรเป็นอันขาดและมีตำรวจพูดแทนว่าได้ทำการจับกุมคนเผาศาลากลางจังหวัดได้อีกแล้ว1คนคือนางสาวปัทมา มูลนิล คนนี้ทั้งๆที่เธอบอกว่าหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ใช้คือภาพถ่ายของเธอในที่เกิดเหตุ ซึ่งหากเธอทำจริงเธอคงไม่เปิดเผยใบหน้าและไปยืนอยู่นานสองนานให้ถ่ายรูปแต่ในที่สุดเธอถูกคำพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิตและลดโทษให้เหลือจำคุก33ปี4เดือนขณะนี้คดีอยู่ในชั้นอุทธรณ์ต่อไปนี้คือส่วนหนึ่งของบันทึกการให้ถ้อยคำของเธอต่อกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ"อยากกลับบ้านแค่มาเรียกร้องประชาธิปไตยทำไมต้องทำกับเราขนาดนี้ด้วยแล้วทำไมตำรวจต้องเอาเด็กผู้หญิงอายุแค่16ปีมาข่มขู่เราด้วยทำถึงขนาดตบหน้าเขาเพียงเพราะอยากได้ตัวเราอยากให้เรารับสารภาพถึงขนาดจะยัดข้อหาเขาตำรวจหัวใจเขาทำด้วยอะไรยังเป็นคนอยู่เหรอแล้วทำไมจะต้องบอกเพื่อนเราพี่น้องเราด้วยว่าเราซัดทอดคนอื่นต้องการอะไรอยากได้อะไรเอาเราไปแถลงข่าวเราแค่มาเรียกร้องประชาธิปไตยทำไมต้องทำเหมือนเราเป็นผู้ร้ายฆ่าคนตายขายยาบ้าระดับชาติด้วยพอเข้ามาอยู่ในเรือนจำทุกคนที่นี่เกือบทั้งหมดก็เป็นมิตรดีแต่จะมีบางคนที่คอยหาเรื่องสงสารคนที่บ้านพ่อแม่พี่ทุกคนก็ลำบากอยู่ข้างนอกเราก็หาเช้ากินค่ำกันแต่เรามาอยู่ในนี้ทุกคนก็พลอยลำบากไปด้วย…

"อยากขอให้ศาลตัดสินประหารชีวิตเลยจะได้ไม่ต้องมาทนทุกข์ทนลำบาก"ปัทมา มูลนิล … คุณยังจำผู้หญิงคนนี้ได้หรือไม?

"อยากขอให้ศาลตัดสินประหารชีวิตเลยจะได้ไม่ต้องมาทนทุกข์ทนลำบาก"ปัทมา มูลนิล ... คุณยังจำผู้หญิงคนนี้ได้หรือไม?ปัทมามูลนิลซึ่งถูกจับในขณะอายุเพียง 23 ปี เธอเป็นลูกคนสุดท้องของครอบครัวแม่ค้าขายอาหารตามสั่งและกำลังเรียนกศน.ในระดับมัธยมต้นปัทมาเคยร่วมอุดมการณ์กับกลุ่ม'คนเสื้อเหลือง' และติดตามข่าวสารผ่านช่องเอเอสทีวีมาโดยตลอดจนกระทั่งมีการยุบพรรคและเลือกตั้งใหม่เธอเริ่มตั้งคำถามจากนั้นเธอจึงติดจานดาวเทียมที่มี 'ช่องเสื้อแดง'ก่อนที่ความคิดจะค่อยๆ เปลี่ยนไปก่อนถูกจับแม่ของเธอได้โทรไปบอกว่ามีหมายจับมาให้ไปมอบตัวเธอบอกกับแม่ว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเธอไม่ได้เผาศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี เธอเข้าไปอย่างเดียวไม่ได้ทำอะไรแม่ก็บอกว่า"ถ้าไม่ได้ทำอะไรลูกก็กลับมามอบตัวสู้คดีซะลูกให้โทรมาบอกอาให้อาพาไปมอบตัว"แต่ในที่สุดเธอก็ถูกตำรวจจับกุมเมื่อวันที่ 24พฤษภาคม2553ที่สถานีขนส่งจ.สุรินทร์โดยเธอถูกล็อกตัวใส่กุญแจมือโดยถูกจับกดคอลงกับพื้นท่ามกลางสาธารณชนพร้อมทั้งมีปืนจ่อหัวและจับคอเสื้อลากขึ้นรถไปยังสภ.เมืองสุรินทร์เพื่อนที่ไปด้วยก็ร้องไห้และถูกบังคับให้เธอรับสารภาพเสีย จะได้ปล่อยเพื่อนไป และขู่จะยัดยาบ้าให้อีกหลายเม็ดและให้เซ็นรับสารภาพแต่โดยดีว่าเผาศาลากลางเซ็นแล้วก็จะปล่อยตัวเพื่อนไปสุดท้ายเธอจึงยอมเซ็นตำรวจนำตัวเธอกลับมาถึงอุบลราชธานีตอนเที่ยงคืนและได้เอารูปภาพประมาณ 400 ภาพในวันเกิดเหตุมาให้ดูและถามว่ารู้จักใครบ้างให้รีบบอกมาเธอบอกว่า ไม่รู้จักตำรวจก็ตบหัวเธอทุกครั้งที่ถามจนเกือบตี 3กว่าก็พาเธอลงมาขังไว้ใต้ถุนสถานีตำรวจโดยตั้งข้อหาหนักให้เธอ คือ 1)ร่วมกันวางเพลิงเผาศาลากลาง2)ร่วมกันประทุษร้ายทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ด้วยอาวุธ ไม้, อิฐ, หิน, หนังสะติ๊ก 3) ชุมนุมกันเกิน 10 คน เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองตำรวจบอกว่าให้รับไปเถอะแล้วไปแก้ข้อกล่าวหาเอาที่ศาลจากนั้นก็ส่งตัวเธอไปแถลงข่าวโดยตำรวจบอกว่าให้นั่งก้มหน้าลงอย่าพูดอะไรเป็นอันขาดและมีตำรวจพูดแทนว่าได้ทำการจับกุมคนเผาศาลากลางจังหวัดได้อีกแล้ว1คนคือนางสาวปัทมา มูลนิล คนนี้ทั้งๆที่เธอบอกว่าหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ใช้คือภาพถ่ายของเธอในที่เกิดเหตุ ซึ่งหากเธอทำจริงเธอคงไม่เปิดเผยใบหน้าและไปยืนอยู่นานสองนานให้ถ่ายรูปแต่ในที่สุดเธอถูกคำพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิตและลดโทษให้เหลือจำคุก33ปี4เดือนขณะนี้คดีอยู่ในชั้นอุทธรณ์ต่อไปนี้คือส่วนหนึ่งของบันทึกการให้ถ้อยคำของเธอต่อกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ"อยากกลับบ้านแค่มาเรียกร้องประชาธิปไตยทำไมต้องทำกับเราขนาดนี้ด้วยแล้วทำไมตำรวจต้องเอาเด็กผู้หญิงอายุแค่16ปีมาข่มขู่เราด้วยทำถึงขนาดตบหน้าเขาเพียงเพราะอยากได้ตัวเราอยากให้เรารับสารภาพถึงขนาดจะยัดข้อหาเขาตำรวจหัวใจเขาทำด้วยอะไรยังเป็นคนอยู่เหรอแล้วทำไมจะต้องบอกเพื่อนเราพี่น้องเราด้วยว่าเราซัดทอดคนอื่นต้องการอะไรอยากได้อะไรเอาเราไปแถลงข่าวเราแค่มาเรียกร้องประชาธิปไตยทำไมต้องทำเหมือนเราเป็นผู้ร้ายฆ่าคนตายขายยาบ้าระดับชาติด้วยพอเข้ามาอยู่ในเรือนจำทุกคนที่นี่เกือบทั้งหมดก็เป็นมิตรดีแต่จะมีบางคนที่คอยหาเรื่องสงสารคนที่บ้านพ่อแม่พี่ทุกคนก็ลำบากอยู่ข้างนอกเราก็หาเช้ากินค่ำกันแต่เรามาอยู่ในนี้ทุกคนก็พลอยลำบากไปด้วย…

คดีก่อการร้ายราชประงค์ จากมุมมองนักกฎหมายต่างประเทศ

Thanaboon Chiranuvat‎สภาปฏิรูปสู่การปฏิวัติแห่งชาติ ภาคราษฎรเสรีไทย1 hr · ขณะนี้ประเทศไทยของเรา กำลังเผชิญกับ "สงครามการก่อการร้าย" ซึ่งเป็นผลเนื่องมาจาก "อวิชา" หรือ Ignorance ที่ครอบคลุมจิตใจ กลุ่มคนที่ใช้อำนาจการปกครองประเทศนี้ โดยมิชอบ แล้วทรนงตนคิดว่า "กูรู้แล้ว" "กูฉลาดที่สุดในประเทศนี้" ผลเป็นไง? ครับ นี่แค่บททดสอบนะ ครับผมขอให้พี่น้องประชาชน ช่วยกันศึกษา กรณีตัวอย่างจาก "คดีระเบิดราชประสงค์" ให้ดีๆ อย่างลึกซึ้ง ผมมีความเห็นในกรณีนี้ ดังต่อไปนี้:๑. ผมเอาคดี Abu Eain…