สาสน์จากเจ้าคุณเบอร์ลินถึงศิษย์วัดพระธรรมกายทั่วโลก

สาสน์จากเจ้าคุณเบอร์ลินถึงศิษย์วัดพระธรรมกายทั่วโลก

ตายเพื่อพระศาสนา ถือเป็น เกียรติยศเหนือเกียรติยศใด ๆ ของ พุทธบุตร : ท่านธัมมชโย ยอมตายคาผ้าเหลือง – เจ้าสัวบุญชัย ยอมตายคาผ้าขาว จะมีอะไรสุดประเสริฐไปกว่านี้อีกเล่า. 
——
– โพสต์นี้ ผมจะขออนุญาตมาแบบตรง ๆ เลยนะครับ อาจแรงกับคนกันเองบ้าง แต่ย้ำต่อหน้า “พระประธาน” ผมเจตนาบริสุทธิ์แท้ครับ.

– ขอเปิดหน้า เปิดใจ เล่นกันกับพวกบ้าสักโพสต์นะครับ.

– พวกนี้ จะมาใจดีกับมันเหมือนทุกครั้ง คงไม่ได้ผลหรอก ครับ นอกจากเลือกจังหวะดี ๆ แล้วใส่หนักๆ ไปเลย เพราะไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว คงไม่ต้องยั้งอะไร…

“เมื่อชักกระบี่ออกจากฝักแล้ว ไฉนยั้งไมตรี ต่อศัตรู”.
——
– มาเปิดแผนเล่นกันซื่อ ๆ แลกหมัดกัน แบบนักเลงโบราณไปเลยดีกว่า เกมส์มันจะได้จบ ๆ ไปสักที

ไอ้ที่ผ่านมานานนะ..”เสียเวลาภาวนาหมด”.

– ปล่อยให้ยืดเยื้อจนถึงฎีกา แบบมองไม่เห็นวันจบสักทีนั้น มันเสียเวลาดูบอลยุโรปไปเปล่า ๆ แถมทำเอาบรรดา..

“กองเชีย์เซ็งเป็ด” ครับ.
—-
– ที่สำคัญผมอยากจะให้ฝ่ายมาร ที่มันชอบนึกกระหยิ่มตลอดมาว่า ..

“ตัวมันเองเท่านั้น
ที่ฉลาด เหนือคนอื่น 
มีคุณธรรมเหนือผู้คนทั้งแผ่นดิน 
รักบูชาพระธรรมวินัยอยู่คนเดียว
มีความเคร่งครัดกว่าสงฆ์ทั้งปวง
มีความเก่ง และแม่นพระวินัย
ถือกฎหมายเป็นหลัก 
ยึดขบวนการความยุติธรรมของชาติ

แล้วก็ออกมาแหกปากตะโกน
ร้องให้คนอื่นยึดกฎหมาย

สาระพัดที่จะพูด จะทำ
เพื่อให้ตนเอง และพวกตนเอง

ดูแล้วดีทุกตารางนิ้ว
ดูแล้ววิเศษ
เหนือคนอื่น
เลิศยังกับเทวดาก็ไม่ปาน”.

– ทั้ง ๆ ที่ “ทั้งหมดล้วนเป็นตรงกันข้าม กับที่มันพูด และประพฤติ”.
——-
– ต่อจากนั้น พวกมันก็สมคบคิด วางแผน 
เพื่อทำลายพระศาสนา 
ทำลายการปกครองสงฆ์ทั้งมวล
หยิบประเด็นนั่นนี่ สารพัดมาป่วนเมือง
เอามาสร้างเรื่อง แบบแฝงนัยยะ.

– เช่น พยายามทุ่มเทจะเอาเป็นตาย 
กะเพื่อทำลายวัดพระธรรมกายให้ได้
เพื่อให้เป็นด่านแรกตามแผนชั่ว

ที่จริงใครก็มองออกว่า งานนี้มี
เป้าหมายเพื่อมุ่งทำลายพระศาสนา
ให้สิ้นไปจากแผ่นดินไทย.

– เพราะเห็นว่า หากปล่อยให้คณะสงฆ์เข้มแข็ง 
เป็นปึกแผ่น การคิดกดหัวก็จะยาก ดัดยาก กำหลาบยาก คุมยาก.

– นี้คือเป้าหมายแผนชั่วของฝ่ายทำลายพระศาสนา ที่กำลังดำเนินอยู่ในไทยเราขณะนี้.

—-

– ว่าไปแล้ว โพสต์ในครั้งนี้ คือ ผมอยากจะให้พวกบ้าเหล่านี้ ได้รู้เสียทีว่า..

“ไอ้ที่มึงคิด มึงทำนั้น 
อย่าคิดว่าคนอื่นเขาโง่ 
รู้ไม่ทัน ไล่ไม่จนกับแผนชั่ว ๆ พวกมึงกันนะ

ไอ้เรื่องบ้องตื้นแค่นี้

ทำไมคนอื่นเขาจะไม่รู้
ทำไมเขาจะคิดไม่เป็น จะทำไม่ได้

แต่ที่ชาวบ้านเขาไม่ทำเหมือนพวกมึงทำนั้น

ก็เพราะพวกเขามีสติปัญญาทางบวกทางสูง
ที่พยายามยับยั้งจิตใจตนตั้งให้สูงไว้

ไม่ให้กิเลสทางต่ำครอบงำใจได้

รู้จักแยกแยะดีกว่าพวกมึง
ถูกผิดรู้ชัดมากกว่า ต่างหากเล่า !!!!

ไม่ใช่ออกอาการเหมือนหมาบ้ารายวัน

คิดพากันทำ เห็นมีแต่เรื่องท้านรกทั้งสิ้น 
กุศลหาไม่มีเลย
วัน ๆ สมองคิดแต่เรื่องทำชั่วไม่ว่างเว้น

อาการอย่างที่พวกมึงทำกันนี้ 
คนไม่ชั่วพอแบบพวกมึงนี้ 
เขาคิดกันไม่ออกหรอก

ไอ้งั่งเอ้ย.. (ชักเหลืออด)”.
—-
เข้าเรื่องเลยครับ
——–

การประกาศยอมตายคาผ้าเหลือง
มันคือ เกียรติยศ เหนือ เกียรติยศใดๆ 
ของเหล่าพุทธบุตร.
——–

– ผม และทีมงาน ได้วิเคราะห์ และสรุปตรงกันว่า ..

“กรณีปัญหาวัดพระธรรมกาย” นั้น.

– เชื่อได้ว่า..

ชาวพุทธทั่วโลกล้วนต่างภาวนาในใจตรงกันว่า ..

“งานนี้ ขอภาวนาให้ ท่านธัมมชโย 
ยอมตายคาวัดไปเลย”.

– เพราะสิ่งนี้สำคัญยิ่งยวดนัก โอกาสแบบนี้ก็หายากด้วย เพราะมัน คือ “เกียรติ ของ พระสงฆ์ ที่เป็นพุทธสาวก ทั้งโลก”.

– อันคนเรานั้น อย่าว่าแต่เป็นพระมหาเถระสงฆ์ที่บวชปฎิบัติดีมาขนาดนี้เลย ต่อให้แค่พระหนุ่มเณรน้อย ก็ตาม.

– เมื่อมาถึงขั้นสูงสุดระดับนี้แล้ว อย่าว่าแต่คดีแค่นี้เลย.

– ต่อให้มีมาร หรือมีอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ หลายร้อยหลายพันเท่า.

– มันก็คงไม่สามารถ ที่จะมาสร้างความหวั่นไหวต่อปณิธานในการถือ “เพศบรรพชิต” ของตนเองไปได้หรอกครับ.
——
– อีกทั้งด้วยสภาพการณ์ ณ ปัจจุบัน ยังไง ๆ ก็ยังดีกว่า ..

“การเดินออกไปเสี่ยง
ให้ความ” อยุติธรรม” 
เรื่องสมมติโลก 
มันมาทำลายเกียรติยศ
แห่งความเป็น” พุทธบุตร” 
ของตนลงป่นปี้เป็นแน่แท้”.

– เรื่องนี้ จริงหรือไม่จริง จะได้รู้กันเร็ว ๆ นี้.
—-

เปิดหน้าเล่นเลยครับหลวงพ่อ.

– ในยามบ้านเมืองเกิด “ทุรยุค” เช่นในทุกวันนี้.

– จะหาความยุติธรรมได้ที่ไหน เหลียวมองไป ก็เห็นแต่ความ “อยุติธรรม” เท่านั้น ที่มันปรากฏไปทั่วในแผ่นดินในทุกวันนี้.

– เหล่าสมณชีพราหมณ์ ที่ปฎิบัติธรรมเพื่อเผากิเลส ซึ่งไร้เกาะป้องกันตัว มีแต่ผ้าพันกาย 3 ผืน.

– ก็ย่อมถูกขุนนางผู้กังฉิน แอบอ้างอำนาจรัฐ ของอาณาจักร ให้กำลังเข้าบีทาย่ำยีทำการ”เบียดเบียน”ให้เกิดความลำบาก ขัดข้องไปทั้งกายใจ ดังเป็นมาทุกยุคสมัย ที่แผ่นดินแตกแยก.

– สภาพการณ์เช่นนี้ วงการศาสนาที่เคยสงบสุข ร่มเย็นด้วยธรรม จึงต่างเดือดร้อนไปทั่วหัวระแหง.
—–
– ดังนั้น ในวันนี้ ผม เจ้าคุณเบอร์ลิน ใยเลยจะเสวยสุขแต่เฉพาะตน ที่เหมือนเนรคุณพระศาสนา.

– จึงขอออกมาเรียกร้องให้ ..เหล่าชาวพุทธ ทราบว่า ..

“พวกเราจะต้องออกมาดูแลกันเอง 
ขออย่าได้หวังไปพึ่งรัฐใด ๆ เลยครับยามนี้”.

– เรื่องนี้ ผมไม่ใช่พูดลอย ๆ นะครับ 
อันนิสัยผมนั้น ไม่เคยพูดอะไร โดยไม่มีข้อมูล
หรือไม่มีการวิเคราะห์.

– ชาวพุทธเรา ณ วันนี้ หวังพึ่งใครไม่ได้แล้ว (ขอได้โปรดอ่านย้ำ).

– หากท่านเอาแต่นิ่ง เป็นประเภท “ธุระไม่ใช่” ดังที่ผ่านมานั้น แล้วพากันไม่เชื่อผม..ขอบอกว่า…

“ทุกอย่างเกี่ยวกับความมั่นคง ของ พระศาสนา ในประเทศไทย อาจจะสายเกินแก้ก็ได้ในเร็ว ๆ นี้”.

– ผมพูดได้แค่นี้แหละครับ.
—-
ต้องการสื่อตรง ต่อ ศิษย์ธรรมกายทั่วโลก.

– ผมขอสื่อมุ่งตรง ถึง เหล่าศิษย์ วัดพระธรรมกายทุกมุมโลก ว่า…

“งานนี้ ณ วันนี้ พวกท่านรอไม่ได้อีกแล้วนะครับ “.
——-

– ผมอยากบอกดัง ๆ ว่า ..

“พวกท่านจะต้องรีบแสดงตัว รีบตื่นตัว และลุกขึ้นมาต่อสู้กับความ “อยุติธรรม” ในครั้งนี้ โดยทันที เพื่อร่วมปกป้องภัยพระศาสนา”.

– มาสร้างมหากุศลครั้งใหญ่ ร่วมปกป้องไปกับ “หลวงพ่อ ของ พวกท่าน อาจารย์ และเพื่อน ของ พวกท่าน”

– โดยทันทีนะครับ ขอย้ำว่า “โดยทันที” รีรอไม่ได้แล้ว.
—–

– ขอเตือนด้วยความเป็นห่วงสุด ๆ ว่า ..

“รีบก่อนที่อะไร ๆ มันจะสายเกินแก้ 
ไม่เช่นนั้น พวกท่านจะเสียใจไปจนวันตาย 
และจะเรียกคืนอะไรมาไม่ได้อีกแล้ว”.

– คิดว่า ทุกท่านคงทราบว่า ผมหมายถึงอะไร.
——
– ก็ในเมื่อเรา….

“เป็นฝ่ายถูกต้อง ไม่ว่าทั้งทางโลก และทางธรรม 
ทั้งยังเกิดในบุญ ตายก็ในบุญ 
จะมาเสียเวลาคิดทำไมละครับ”.
——-
มาไงก็ไปงั้น เปิดหน้าเล่นกันเลย.

– อันสติปัญญาคนเรานั้น ไม่ได้มีไว้แกงกิน ใช่จะมีแต่คนอื่นเสียที่ไหน.

– ตัวเราก็มี ผม เจ้าคุณเบอร์ลินก็มี จะเอาเท่าไหร่ กะอีแค่ปัญญาไว้สู้ความอยุติธรรม และหาใช่ฝ่ายตรงข้ามจะคิด จะทำได้อยู่ฝ่ายเดียวไม่.

– ยอมอะไรกันง่าย ๆ ครับ ใครยอมง่าย ๆ ก็ไปตายชะ ยิ่ง …

“พ่อตัวเองแท้ ๆ กำลังประสบภัย” อยู่เช่นนี้.

– ผมอยากจะบอก กับ ชาววัดพระธรรมกายทั้งโลก ว่า ..

“ทำไมอ่อนแอกันจังเลย ตั้งรับมานานเกินแล้ว 
วันนี้ มันถึงเวลาที่จะต้องรุกกลับ ตอบโต้คนโฉดแล้วนะครับ”.

– ปล่อยให้เขาทุบ เขาตี อยู่ทุกวัน หรือจะปล่อยให้เขาใส่สีตีไข่กับสำนักเรา พ่อเรา ต่อไปเช่นนั้นหรือ รอไม่ได้อีกแล้วนะครับ.

– ผมจะบอกความจริงที่น่าเจ็บปวดอะไรให้ทราบอย่างหนึ่ง คือ ในตอนนี้นั้น ..

“สังคมคนภายนอกร้ัวธรรมกายนั้น 
เขาพากันมองวัดธรรมกาย 
ชนิดหมดความน่าเชื่อถือไปหมดแล้ว 
เพราะถูกฝ่ายตรงข้าม
เขาได้สร้างสื่อประโคมข่าว
ที่หลอกลวงกันป่าวๆ ต่อเนื่อง
พวกท่านก็มัวแต่โลกสวยกันอยู่นั่นแหละ 
จึงได้พากันเน่ากันหมดในทุกวันนี้”.

– กว่าความจริงจะปรากฎ ก็เละไปแล้ว จะไม่เชื่อผมก็ได้.
——-
– พวกท่านเหล่าศิษย์ฆราวาส พวกท่านพากันทราบกันไหม ว่า..

“ทุกวันนี้ 
ตัวหลวงพ่อ หลวงพี่ ของพวกท่านนั้น
ยิ้มแต่เพียงภายนอกกันเท่านั้น

ส่วนภายในร้องไห้น้ำตาตกกันทุกคน
กับสารพัดปัญหาที่ถาโถมเข้ามาสู่สำนัก

ทั้งยังต้องทำงาน หามรุ่งหามค่ำ 
อดทนแรงปะทะสารพัดขนาดไหน

กลางคืนแทบไม่ได้นอน 
ต้องคอยแก้เกมส์หาทางสกัดวิชามาร
ของคนที่มารังแกสารพัดอยู่ทุกวัน

พากันมองเห็นแต่ภายนอก
ที่สวย ๆ กันอยู่นั้นแหละ

มามองความจริงกันเถอะครับ”.

– แล้วจงพากันคิดต่อไปว่า “พวกเรา ที่เป็นศิษย์ จะแสดงออก ในเรื่องความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณอย่างไร”.
—–
– เหตุหนึ่ง ที่ดูเหมือนเป็นลูกไล่ให้พวกมารมาตลอด ก็เพราะพวกท่าน …

“พากันนิ่งมาตลอดนี้แหละ”

มันนิ่งเกินไปครับ ..

มัวแต่พากันหลับตาเพ่งลูกแก้วอยู่ได้

ถามว่า แล้วคนชั่วมันจะกลับใจไหม

ต่อให้เพ่งจนลูกแก้วแตก 
พวกคิดชั่วมันก็คิดชั่วอยู่วันยังค่ำ”.

– อันธรรมะนั้น ต้องใช้กับคนมีธรรมะครับ นำไปใช้กับคนอันธพาลไม่ได้ผลหรอกครับ.

– คนอันธพาลนั้น ต้องโดนสันขวาน แบบวิธีของเจ้าคุณเบอร์ลินครับ จึงจะหยุดได้ ไปพูดดีไม่ได้ผลหรอกครับ.
——
ทำไม? ทำไม ? และทำไม? กับสะโลแกนหรู.

– พูดมาถึงขนาดนี้ ผมก็ขอพูดต่อแบบไม่เกรงใจ แต่รับรองว่า “หวังดี” ตรงนี้สักหน่อยนะครับ มันอึดอัดใจมานานแล้ว นั้นก็คือว่า….

“ไม่ทราบว่า ใครคิดสะโลแกนคำหรูว่า..

“ไม่สู้ ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป” ครับ.
—–
– รู้ไหมครับ พอคำนี้ ออกมาเผยแพร่ โดยไม่จำกัดวงเผยแพร่.

– พวก “ศิษย์รอบใน” หมายถึง คนทำงาน ก็งงซีครับแบบนี้ จะเดินเกมส์กันยังไง คนทำงานก็ยังงง.

– ผมอยากจะถาม และเป็นคำตอบในตัวว่า ..

“ไอ้ตำรานี้น่ะ มันเคยไปเอาใช้
กับพุทธอิสระ ได้ผลหรือ?
มันเคยไปเอาใช้กับไพบูลย์ 2 คน บวกไพสิฐ อีก 1 ได้ผลหรือ ?”.

– แค่ไอ้ “มโนบ้า” ยังใช้กับมันไม่ได้ผลเลย 
คิดออกมาได้ไงครับ.
——-
– เพราะอย่าลืมนะครับว่า…

“อันเมตตานั้น จะต้องใช้กับคน
ที่มีเมตตาด้วยกันเท่านั้น 
จะใช้เมตตากับงูเห่า 
เช่นเรื่องชาวนาได้อย่างไร 
เพราะมันเป็นสัตว์เดรัจฉาน 
มันจะรู้ภาษาคนได้อย่างไร
มันจะรู้อย่างไรว่า ชาวนาต้องการช่วยมัน 
พออุ่นมันก็กัดตายเอาเท่านั้น
ซึ่งก็น่าจะสมควรตายแหละครับ 
เพราะดันโง่เอง
ที่ไปช่วยสัตว์เดรัจฉานแบบไร้สมอง “.
——
– ผมมันคนชอบตรง ๆ แบบนี้แหละ หากไม่สบอารมณ์ก็ต้องขออภัยกันนะครับ.

– หรือเอาง่าย ๆ ผมขอถามว่า ..

“มีพ่อแม่ครูบาจารย์ที่ไหนกันละครับ 
ที่สอนให้ลูก “กลัวคน ไม่สู้คน”

มีแต่สอนว่า ..

“อย่ารังแกคน
อย่าเบียดเบียนคนอื่นทั้งนั้น””.

– นี่อะไร!!!!! ศัตรูมันถือไฟจะมาเผาวัด เผาพระศาสนาอยู่แล้ว ..

“พวกท่าน หากยังมัวแต่พากันเพ่งลูกแก้วภาวนา …

“ไม่สู้ ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป”

ขืนอยู่กันแบบนี้อีกละก็.

– ก็คอยเป็น “นาลันทา 2 ” ก็แล้วกัน.

– รู้ไหม เขาคิดจะพังทะลายลงมาตั้งแต่ลูกแก้วบนยอดเจดีย์ยันพื้นนะแหละ.

– ไม่เชื่อก็คอยดู.

– ชัดนะครับ.
——
แนะกลยุทธ : เปิดหน้าตอบโต้ทันที

– อันแนวรบด้านสื่อ ก็อย่าหยุด ระดมกันเขียน กันโพสต์ อย่ามัวมารอแค่ว่า…

“ปล่อยเจ้าคุณเบอร์เขียน หรือหาที่อื่นมาแปะแล้วมาค่อยแชร์ คอยไลน์ต่อก็พอ คิดแค่นี้ไม่ได้ เพราะมันจะไม่ทันการณ์”.
—–
ทำ! ทำไม? สารพัดดีกรีในสำนัก ทำไมเงียบจัง.

– เขียนออกมาเลยสิครับ ขอเพียงเราคิดอะไรก็ได้ โดยเขียนออกจากหัวใจเรา แสดงธรรมชาติออกมาว่า..

“ใครมานั่งดูให้พ่อตัวเอง ถูกกระชากลากถูไปต่อหน้าต่อตาได้ มันก็หมาเท่านั้นแหละ”

ตั้งใจอย่างนี้ แล้วช่วยกันเขียนกระจายให้มาก ๆ.

– สำนักเรา ก็มีเป็นประโยค 8 ประโยค 9 เป็นดอกเตอร์ ตั้งมากมายในวัด ปัญญาเขาเอาไว้ใช้ตอนนี้แหละครับ ตอนปกป้องพ่อนี้แหละ พ่อเป็นคนส่งเราเล่าเรียนจนจบมิใช่หรือครับ.

– เอาวินาทีต่อวินาที นาทีต่อนาที ชั่วโมงต่อชั่วโมง วันต่อวันไปเลย ให้ถือว่า “เป็นการปฎิบัติธรรมอย่างหนึ่งไปเลย”.

– ลูก ๆ พระธรรมที่เป็นฆรวาสด้วย ทุกเพศทุกวัย ใครถนัดทางไหน มีช่องทางทางไหน วิ่งเข้าหา ขอให้พี่น้องเพื่อนฝูงช่วยเลย ร่วมแรงกันมาก ๆ มันจะเป็นพลังมหาศาลไปเอง.

– ให้แก้ทุกดอก โต้ทุกข้อกล่าวหา รุกคืน ทุกมุมที่เขาพลาด หรือเปิดช่อง อย่าให้เขายึดหน้าสื่อ หน้าเฟสบุ๊ค หน้าไลน์ในแต่ละวัน อย่ามัวมานั่งโทษสื่อว่า ไม่รายงานข่าวตน หรือเขาเขียนด่าเขียนบิดเบือนอยู่เลย ไม่เกิดประโยชน์หรอก สร้างศัตรูเปล่า ๆ.

– ปลุกใจขึ้นมา รุมกันทำทุกทิศทาง เปรียบเหมือนการไล่ล่าเหยื่อ ของ ฝูงสิงห์โต.

– เพราะขึ้นชื่อว่า “การต่อสู้” มันแปลว่า “การต่อสู้” ย่อมไม่เลือกวิธีการ ที่จะนำไปสู่ชัยชนะทั้งสิ้น.

– ท่องไว้ นักต่อสู้ทั้งหลาย ไม่งั้น ก็ไม่ต้องสู้ เดินไปให้เขาขย้ำซะ หมดเรื่อง หมดราว.
—–
บุญชัย ชื่อ ผู้เสียสละเพื่อพระศาสนา

การเสียสละเพื่อพระศาสนา หาใช่แค่วัดพระธรรมกายไม่.

– เจ้าสัวบุญชัย ยอมเสียสละตน ออกมาชี้ทางชนะ ทางรอด ของ วัดพระธรรมกาย / ปักหมุดนำร่องแก่มวลศิษย์ทั่วโลก.

– ว่าไปแล้ว ณ วันนี้ วัดพระธรรมกาย จะอยู่รอดหรือผ่านพ้นอุปสรรคในวันนี้หรือไม่นั้น ผมเชื่อตามผู้ใหญ่ที่ประเมินไว้ว่า ..

“อยู่ที่แนวรบ ด้านมวลชน เป็นหลักสำคัญที่สุด”.

“ร้อยเล่ห์พันเหลี่ยม ก็แพ้เพียงหนึ่งแห่งการเหนียวแน่นมวลชน”.
—-
– ดังนั้น คณะศิษย์ลูกพระธรรมทุกท่าน พวกท่านเห็นช่องทางแล้ว จะต้องเหนียวแน่นเอาไว้ พูดภาษาเดียวกันให้ก้องโลกว่า….

“หลวงพ่อต้องตายอยู่ในวัดเท่านั้น เป็นอื่นไปไม่ได้”

ให้มันรู้ไปเลย ท่องกันไว้.

– เพราะสิ่งนี้สิ่งเดียวเท่านั้น ที่เป็นหัวใจอันสำคัญ เป็นกำแพงที่แข็งแกร่ง อันเป็นที่เกรงกลัวของฝ่ายคิดทำลาย ที่ยังกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่กล้าเข้ามาปะทะในขณะนี้ ก็เพราะมวลชนที่เหนียวแน่นนั้นเอง.

– แม้แต่หน่วยงานรัฐบาลเอง ก็ยังเกิดความคร้ามต่อมวลชนลูกศิษย์ ของ วัดพระธรรมกาย อันนี้ใคร ๆ ก็รู้.

– แล้วก็ขอร้องว่า อย่าไปคิดใช้ไม้แข็งเอา “อาวุธ” มาต่อกรกับอำนาจรัฐ ดังที่ผ่านมานะครับ เดี๋ยวจะพลาดไปเปิดคางให้เขาอีก.

– เพราะหากรัฐเขายกกำลังมาจริง ๆ ด้วยแสนยานุภาพของกองทัพ บวกความชอบธรรมที่เขาอ้าง ซึ่งหากมีการต่อต้านด้วยลักษณะอาวุธ ที่เขาพยายามหาช่องใส่ร้ายอยู่แล้ว.

– อย่าว่าแต่แค่สำนักวัดธรรมกายเลย ต่อให้ภูเขาทั้งลูก เขาก็ทะลายลงได้ และยังถูกนำไปขยายว่าเป็น รัฐอิสระ แข็งเมืองไปอีก มีแต่เสียกับเสีย ด้วยวิธีแบบนี้.
—–

– ในตอนนี้ คุณบุญชัย ซึ่งถือว่า เป็นคนที่มีน้ำหนักในสังคมไทยคนหนึ่ง ในฐานะศิษย์รุ่นใหญ่ของธรรมกาย ก็ได้เปิดตัว ออกมาป้องวัดเต็มพิกัดไปแล้ว.

– แรงประกาศคุณบุญชัยในครั้งนี้ ส่งแรงสะเทือนมากถึงมากที่สุด.

– เหมือนหมุดที่ปักแน่นลงในเขตวัดพระธรรมกาย ไปแล้ว.

– นั้นคือ …

“ได้ประกาศชัดในเจตนารมณ์ ที่จะปักหลัก และหยัดสู้จนตัวตายคาผ้าขาวของตน และสื่อไปยังการขอตายคาผ้าเหลือง ของ ผู้เป็นหลวงพ่อ ของ เหล่าศิษย์ธรรมกายด้วย”.
—–
– การเปิดหน้าเล่น ของ คุณบุญชัย ในครั้งนี้

“ถือเป็นความกล้าหาญ ที่พุทธบุตรต้องถือเป็นแบบอย่างที่ดี ที่สุด และสมควรได้รับการยกย่อง จากเหล่าพุทธบริษัท และคณะศิษย์วัดพระธรรมกายทั่วโลก”.

– เพราะย่อมเสี่ยงที่จะถูกฝ่ายตรงข้ามเอาขี้มาใส่เอาคดีมาแปะว่า..

“ปลุกม๊อบ ขัดขวาง ศาล หรือเจ้าหน้าที่ได้”.

– ต้องถือว่า…

“การกระทำของคุญบุญชัยในครั้งนี้ หากศรัทธาไม่มั่นคงจริง ใจไม่ถึงจริง คงทำไม่ได้”.

– เพราะแม้แต่ อธีบดี DSI เอง ก็ยังง่าว …คิดจะไปแจ้งความเอาผิด ตามกองเชียร์โง่ ๆ ไปโน้น.

– เรื่องนี้ หากไม่หูหนวก ก็ให้ไปเปิดฟัง คุณบุญชัยแกพูดอีกรอบนะครับว่า ..

“เชิญชวนมาปฎิบัติธรรม อธิษฐานให้หลวงพ่อเราพ้นผิด”.

– มีตรงไหนที่แกมายุให้ไปจับไม้มาลุย กับ เจ้าหน้าที่ หรือไปขัดขวางศาลละครับ.

– ตรงนี้ หากกองเชียร์ที่คิดมั่ว มัวแต่จะทำลาย วัดพระธรรมกาย หรือ อธิบดี DSI ที่อาจว่างมาก.

– ก็ให้พากันเดินไปจูงมือ พล.อ ไพบูลย์ คนเป็นนาย ด้วยก็ได้ ให้ไปเปิดคลิป “บิ๊กปัอม” แกพูดแบบชัด ๆ ไม่ต้องตีความ ดูอีกรอบก็ได้นะ ว่า..

“เขาชวนคนมาปฎิบัติธรรม”.

– งานนี้ จะได้หายเมากันสักที.
—-
– ระดับคุณบุญชัย เขาคงไม่โง่ขนาดนั้นหรอกครับ ที่แค่นี้ยังจะไม่รู้ว่า “อะไรเป็นอะไร”.

– แม้แต่ เจ้าคุณเบอร์ลินเองก็ตาม ถามว่า..

“ที่ผ่านมามีตรงไหนที่พูดผิด 
มีแต่ไหนที่ยุให้คนทำผิดศีล ผิดกฎหมาย
มีตรงไหนที่ยุให้คนหนีคดี อยู่เหนือกฎหมายบ้าง

ก็เห็นมีแต่
ร้องบอกช่วยปกป้องพระศาสนา
ป้องมหาเถรสมาคม
ช่วยผดุงความยุติธรรม
ช่วยกันรักษาสถาบันสำคัญของชาติ

ถือหลักผิด/ถูกเป็นที่ตั้งทั้งสิ้น

ส่วนมันจะไปตรงข้ามกับคนพาลนั้น
มันจะหลีกพ้นกันได้ไงละครับ”.


วัดไหน ๆ ก็คือวัด ล้วนเป็นฐาน และสัญลักษณ์ความเจริญ และความเสื่อม ของ พระพุทธศาสนาทั้งสิ้น.
—–
– ว่าไปแล้ว อันวัดพระธรรมกาย นั้น ก็คือ เกียรติของคณะสงฆ์ไทยโดยรวมนั้นเอง ซึ่งทั่วโลกย่อมไม่มีใครปฎิเสธในข้อนี้ได้.

– ดังนั้น การที่รัฐบาล คล้ายปล่อยให้กลุ่มแอบแฝงเข้ามาทำลาย วัดพระธรรมกาย โดยไม่เลือกวิธีดังที่ปรากฎนั้น.

– มันก็คือ การทำลายเกียรติ ของ คณะสงฆ์เถรวาทไทย นั้นเอง.

– ซึ่งก็คือ จุดจบ ของ พระพุทธศาสนา บนผืนแผ่นดินไทยด้วย.
—–

เรื่องศรัทธาเป็นเรื่องอ่อนไหวง่ายควรระวังให้มาก.

– ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแห่งปัญหาวัดพระธรรมกาย ณ วันนี้นั้น ผมขอเตือนรัฐบาลดังๆ อีกครั้งว่า ..

“อย่าคิดล้อเล่นกับศรัทธา”

และผมคิดว่า รัฐบาลเอง ก็น่าจะ..

“เกรงสถานการณ์อ่อนไหวแห่งศรัทธา จะเกิดกระแสจุดติด เป็นเชื้อลุกลาม มากกว่าเรื่องอื่นใดๆ”.

– อาจมากกว่าเรื่อง ประชามติด้วยซ้ำ.

– สังเกต สภาพการณ์ท่าที เช่น คนหนึ่งออกมาขู่ แต่อีกคนหนึ่ง ดันออกมาปลอบ.

– แต่พอเผลอก็ซัดพระสงฆ์ทันที.

– แม้ตอนนี้รัฐบาล ก็ดูเหมือนทำทีเป็นปลอบ พยายามเอาน้ำเย็นลูบ.

– อาจเพราะเห็นแรงกระเพื่อม จึงปลอบเพื่อให้ตายใจ และสร้างความชอบธรรมให้แก่ฝ่ายตนเอง.

– ซึ่งก็ใช่ว่า จะไว้วางใจได้ เพราะลูกทีมเดินยังไม่ถึงธงที่ปักไว้แต่แรก.

สุดท้าย

– ผมอยากจะแนะนำสั้น ๆ ตรง ๆ แบบมาไงไปงั้น แก่มวลซิษย์วัดพระธรรมกาย เพื่อสื่อเนื่องไปยังฝ่ายตรงข้ามว่า..

“มึงคิดว่ามึงฉลาดคนเดียวหรือ?”

ด้วยวิธีย้อนศรนั้นก็คือ…

“ในส่วนแนวรบด้านพุทธอิสระ/ไพบูลย์และพวก นั้น
ก็อย่าให้เขาได้ทำงานได้สะดวก เหมือนที่ผ่านมา

ให้จัดหาคน ไปยื่นเรื่องขัดแข้งขัดขาไว้ 
พัวพันไว้ 
มึงยื่น กูก็ยื่น 
มึงแจ้ง กูก็แจ้ง 
มึงทวงถาม กูก็ทวงถาม
มึงไปที่ไหน กูก็ไปที่นั้น”.

– ง่าย ๆ แค่นี้ ผมว่า มันก็มึนแล้วครับ.
—-

– ผมก็ไม่อยากจะประมาทศัตรูหรอกครับ แต่อยากจะบอกตรง ๆ ว่า..

“ผมดูหน้าตาพวกปั่นศาสนานี่ แต่ละคนนี่
หน้ามันเหมือนคนปัญญาอ่อน ไม่เต็มบาท
ยังไงยังงั้นทุกคนเลยครับ”
—- 
– ผมคิดว่า เมื่อโพสต์นี้ออกไปแล้ว พวกบ้ามันคงตาเหลือกว่า..

“ไอ้เจ้าคุณเบอร์ลินนี่ ลูกบ้ามันเยอะกว่ากูเสียอีก”.
—-

– ขอปิดท้ายด้วย…

“การได้ตายในผ้าเหลือง 
ตายในผ้าขาว 
เพื่อพระศาสนานั้น
ไปเกิดสูงแน่นอน

ส่วนใครตายในผ้าลาย
ที่ก่อกรรมหนักทุกวี่วัน
จะเป็นลายดอก ลายผ้าขาวม้า 
หรือแม้แต่ “ลายพราง”
ก็ น..า…รก ลูกเดียวครับ”.

– ก็เลือกกันเอาเองครับว่า จะขอตายแบบไหน.

โชคดีมีชัยทุกท่านครับ

เจ้าคุณเบอร์ลิน

Berlin,den 20.06.2016

– แนบภาพประกอบเรื่อง..



Leave a comment